คาดไบเดน ออกคำสั่งฝ่ายบริหารเกี่ยวกับคริปโตฯ ภายในสัปดาห์นี้ หลังจากปลายสัปดาห์ที่แล้วเฟดเพิ่งประกาศขยายมาตรการควบคุมกิจกรรมการลงทุนของเจ้าหน้าที่ระดับสูงครอบคลุมการห้ามลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล

ยาฮู ไฟแนนซ์รายงานเมื่อวันจันทร์ (21 ก.พ.) ว่า คำสั่งฝ่ายบริหารที่คาดกันว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะประกาศออกมาในสัปดาห์นี้จะเกี่ยวข้องกับการสั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ ศึกษาเกี่ยวกับคริปโตฯ และสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) และจัดทำกลยุทธ์ควบคุมสินทรัพย์คริปโตฯ

หน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลซึ่งรวมถึงกระทรวงการคลัง กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ จะได้รับการร้องขอให้จัดทำรายงานเกี่ยวกับอนาคตของเงินและระบบการชำระเงิน

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการกำกับดูแลเสถียรภาพทางการเงิน (FSOC) จะตรวจสอบปัญหาเสถียรภาพทางการเงินที่เกิดจากสินทรัพย์ดิจิทัล โดยก่อนหน้านี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนว่า อีกไม่นานคริปโตฯ อาจสร้างความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศต่างๆ

รัฐมนตรียุติธรรม คณะกรรมการการค้าสหรัฐฯ (FTC) และสำนักงานคุ้มครองทางการเงินผู้บริโภค จะศึกษาว่า การเติบโตของภาคคริปโตฯ จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดอย่างไร อนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้ FTC เพิ่งออกคำเตือนเกี่ยวกับโปรเจกต์การลงทุนในคริปโตฯ

รายงานยังระบุว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) คณะกรรมการกำกับดูแลการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (CFTC) ธนาคารกลาง (FED) สถาบันประกันเงินฝาก (FDIC) และสำนักงานบัญชีกลาง (OCC) จะพิจารณามาตรการคุ้มครองตลาดภายในเขตอำนาจของตน ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แกรี่ เกนสเลอร์ ประธาน SEC เผยว่า SEC จะทำงานร่วมกับ CFTC เพื่อควบคุมอุตสาหกรรมคริปโตฯ

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะหารือกับ SEC, CFTC และหน่วยงานการธนาคาร เพื่อรวบรวมรายงานวิธีป้องกันความเสี่ยงจากคริปโตฯ เสนอให้ไบเดน

คำสั่งฝ่ายบริหารจะตรวจสอบมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค ธุรกิจ และนักลงทุน ตลอดจนถึงการดำเนินการเกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์ ความเป็นส่วนตัว และเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (DLT) นอกจากนั้น รัฐบาลสหรัฐฯ ยังเล็งประสานงานกับประเทศต่างๆ เพื่อกำหนดมาตรฐานสำหรับกฎควบคุมคริปโตฯ

อนึ่ง สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ได้จัดตั้งหน่วยงานใหม่เพื่อจัดการการแสวงหาผลประโยชน์โดยไม่ชอบธรรมจากคริปโตฯ และกระทรวงยุติธรรมแต่งตั้งผู้อำนวยการคนแรกของทีมบังคับใช้กฎหมายคริปโตฯ แห่งชาติ

วันศุกร์ที่แล้ว (18) คณะกรรมการกำกับดูแลนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ลงมติเอกฉันท์รับรองกฎใหม่ในการจำกัดกิจกรรมการลงทุนและการซื้อขายของเจ้าหน้าที่อาวุโส ซึ่งขยายผลมาจากประกาศครั้งแรกในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เพื่อเสริมสร้างความยุติธรรมและจริยธรรมในการทำงานของ FOMC และป้องกันปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน

ภายใต้กฎนี้ เจ้าหน้าที่อาวุโสของเฟดจะถูกห้ามไม่ให้ลงทุนในหุ้นของบริษัทเอกชน สินค้าโภคภัณฑ์ สกุลเงินต่างประเทศ ตราสารอนุพันธ์ กองทุนรวมกลุ่มธุรกิจ และคริปโตฯ รวมทั้งห้ามเกี่ยวข้องกับการทำชอร์ตเซลส์ หรือการยืมหุ้นมาขายก่อน เป็นต้น

ทั้งนี้ กฎหมายฉบับเดิมไม่ได้ห้ามเจ้าหน้าที่ลงทุนหรือเกี่ยวข้องกับคริปโตฯ แต่อย่างใด

กฎใหม่นี้บังคับใช้กับเจ้าหน้าที่อาวุโส เช่น ประธานเฟด สมาชิกบอร์ด FOMC รองประธานอันดับ 1 ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย ผู้จัดการและรองผู้จัดการระบบบัญชี เจ้าหน้าที่ FOMC สมาชิกคณะกรรมการที่เข้าประชุมกับ FOMC เป็นประจำ ตลอดจนถึงคู่สมรสและบุตรของบุคคลเหล่านี้ โดยผู้ที่ครอบครองสินทรัพย์หรือหลักทรัพย์ต้องห้ามข้างต้นมีเวลา 12 เดือนนับจากที่กฎนี้เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ในการจัดการขายสินทรัพย์หรือหลักทรัพย์เหล่านั้น

นอกจากนั้น เฟดยังคาดหวังขยายผลบังคับใช้กฎใหม่นี้กับเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ภายหลังเสร็จสิ้นการทบทวนและวิเคราะห์เพิ่มเติม

กฎใหม่นี้ออกมาหลังจากเมื่อปีที่แล้วเจ้าหน้าที่อาวุโสหลายคนของเฟดเทรดหุ้นและเครื่องมือการลงทุนอื่นๆ ไม่นานก่อนที่เฟดจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่เพื่อรับมือวิกฤตโควิด ส่งผลให้อิริก โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน และโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส ยื่นใบลาออกหลังกรณีอื้อฉาวนี้

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket