สุพัฒนพงษ์ถกหน่วยงานเศรษฐกิจ “คลัง-ธปท.-ก.ล.ต.” ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจ แหล่งเงินรองรับน้ำมันแพง กรณี “รัสเซีย-ยูเครน” ยืดเยื้อ หวังขยายเวลาเพิ่มสำรองน้ำมัน จาก 60 วัน เป็น 70 วัน

วันที่ 11 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน ได้ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ทั้งความผันผวนของราคาน้ำมัน และภาพรวมของเศรษฐกิจนั้น ทำให้กระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาน้ำมัน ในกรณีสงครามยืดเยื้อ

ซึ่งนายสุพัฒนพงษ์​ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ได้หารือกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เกี่ยวกับความผันผวนของสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก จากเกิดความสงครามรัสเซียกับยูเครน โดยมีนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)​ นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เข้าร่วมประชุมด้วย ในวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา

โดยนายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นการประเมินสถานการณ์โดยภาพรวมของเศรษฐกิจและแหล่งเงินที่จะนำมารับมือปัญหาราคาน้ำมันแพง แต่ประเด็นสำคัญต้องคำนึงถึงเสถียรภาพความมั่นคงด้านพลังงาน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้พลังงานอย่างเพียงพอ เช่น การสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่ม จาก 60 วัน เป็น 70 วัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่ามีน้ำมันเพียงพอ ส่วนไฟฟ้าก็จะเจรจาหาแหล่งผลิตไฟฟ้ารูปแบบอื่น ๆ ทดแทน

นอกจากนี้ ยังมีการหารือถึงมาตรการอื่น ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมไว้รองรับ หากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนยืดเยื้อและยังไม่คลี่คลาย โดยจะมีการแถลงรายละเอียดในวันนี้อีกครั้ง

“วันนี้เราไม่รู้ว่าสถานการณ์สงครามจะยาวนานแค่ไหน เราก็ต้องหามาตรการรับมือไว้ ที่สำคัญคือ ต้องมีพลังงานเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ส่วนราคาแพง ก็ต้องแก้ปัญหา วานนี้ (10 มี.ค.) จึงนัดประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน หาแนวทาง เพื่อเตรียมความพร้อมการรับมือสงครามยืดเยื้อ”

อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance